วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

เอา High speed train ไปขนผัก


พักนี้บนหน้าเฟซบุค ที่ผ่านๆตาผมหนักไปทางเรื่อง การเอา High speed train ไปขนผักเป็นเรื่องขำกันไปทั่ว บ้างค่อนว่าแพงไปมั๊ยสำหรับเงินขนาดนั้นเอาไปทำรถขนผัก  ไอ้ผมไม่ได้มีความรู้มากมายทางด้าน Logistic อาศัยว่าพอจะมีความเข้าใจทางเครื่องยนต์กลไกอยู่บ้าง
ผมก็มองว่า รถขนคน กับรถขนของ ก็ไม่ต่างกันมากมาย ทางเทคนิคมันทำได้ กะอีแค่เอาผักยัดกล่องแล้วเอากล่องผักที่ว่ายัดใส่ตู้รถไฟความเร็วสูงอีกที ต่างตรงที่ของมันเดินขึ้นรถเองไม่ได้ แค่ต้องมีคนขนของขึ้นลงรถก็เท่านั้น ส่วนคนมันเดินขึ้นกล่องตู้รถได้เอง  สุดท้ายทั้งคนทั้งของก็เข้าไปอยู่ในกล่องตู้รถไฟเหมือนๆกัน

ยอมเสียเวลา หาข้อมูลจาก Google ดูสักหน่อย ก็จะเห็นว่า ต่างประเทศเขาก็ทำ อาจจะแยกเป็นสัดส่วนออกจากระบบขนคน เป็นเรื่องราวไปก็เท่านั้น หลายที่ก็ออกแบบ ให้ใช้งานร่วมกัน ขนทั้งคนขนทั้งของ

ผมว่าเราอคติให้ความสำคัญกับเรื่องการเมืองมากเกินไป  ใครที่ไหนจะเอาเงินขนาดนั้นไปทำรถขนผักอย่างเดียว เห็นกันมาสองปี นายกหญิงฯของเราท่านนี้ ท่านก็เป๋อๆกะเปิ๊บกะป๊าบ ไม่ถนัดเรื่องพูด ก็เลยเผลอปล่อยไก่ไปตามประสาของท่านแหละครับ อย่าไปจริงจังกับคำพูดของท่านนักเลย

ผมว่าที่เราตั้งป้อมไม่เอางบ 2.2 ล้านล้านเนี่ย เรากลัวนักการเมืองจะโกงเอาเงินเราไปใช้ มากกว่าจะกลัวเรื่องจะสร้างรถไฟ คือเราต้องการเห็นประเทศเจริญเหมือนกันแหละไม่ว่าจะสังกัดสีอะไร

เวลานี้เราต้องหันกลับมาดูว่า ไอ้ระบบขนส่ง Logistic ของเราในปัจจุบันมันห่วยแค่ไหน ระบบขนส่งทางรถไฟของเราล้าหลังแค่ไหน ซึ่งมันเลยเวลาเรื่องต้องปรับปรุงระบบแล้ว มันต้องรื้อสร้างใหม่สถานเดียว ถ้าเป็นไปได้ ยกเลิก รฟท ไปเลยได้ก็ยิ่งดีครับ

ส่วนไอ้เรื่องผักเน่าเสีย เพราะระบบ Logistic มันห่วย ใช่ครับ มันก็เป็นความจริงที่เกิดความเสียหายเนื่องจากขนส่งไม่ทัน แต่ต้องมาดูด้วยว่าไอ้ที่ตะบี้ตะบันปลูกกันอยู่เนี่ยมัน Over Supply เพราะมีกลไกอะไรไปบิดเบือนตลาดหรือเปล่า สมมุติว่าขนผักใส่ตู้รถความเร็วสูงไปขายได้ทันทั้งหมด แต่ปริมาณผักมันก็ Over Supply นะมันก็ไปเน่าที่ตลาด หรือที่โกดังอยู่ดี แหละครับ ไม่มีใครซื้อยกเว้นรัฐบาล  แถมค่าขนส่งผักด้วยระบบรถไฟความเร็วสูง คิดออกมาเป็นต่อกิโลกรัมผัก อาจจะไม่คุ้มเอาเลยก็ได้ คงต้องจำกัดเฉพาะพวกผัก Premium Grade กระมัง

ธเนศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น